ประวัติหลวงพ่อดำ


ประวัติพระพุทธชัยมงคล (หลวงพ่อดำ)
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดท่าเกวียน

วัดท่าเกวียนเป็นวัดที่มีความสวยงามมีโบราณสถาน  (โบสถ์เก่า)  เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อดำที่ศักดิ์สิทธิ์  ลักษณะศิลปะเชียงแสนตอนปลาย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนในท้องถิ่นและบริเวณใกล้เคียง 
     องค์หลวงพ่อดำ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก  ๔๐ นิ้ว ซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะ
ในสมัยเชียงแสนตอนปลาย หลวงพ่อดำเป็นองค์พระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เดิมท่านประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีเรื่องเล่ากันว่าเป็นพระที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชนับถือมากถึงขนาดให้ช่างจำลองขนาดมาเป็นพระยอดธงติดตัวไว้เสมอ และก่อนที่ท่านจะสิ้นพระชนม์ได้บรรจุไว้ในพระเกตุขององค์หลวงพ่อดำ ต่อมาได้สูญหายไประหว่างการเคลื่อนย้าย          
     ครั่นต่อมารัชกาลที่ ๔ ได้นำท่านมาประดิษฐานไว้ในอุโบสถวัดเลียบ หรือวัดราชบูรณะ (ย่านสะพานพระราม๖) จนกระทั่งเมื่อครั้งเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ วัดเลียบถูกระเบิดทำลายจนเรียบหมด แต่ด้วยปาฏิหาริย์ยังคงเหลือองค์หลวงพ่อดำตั้งอยู่เพียงองค์เดียว เหตุการณ์นี้จึงเป็นที่ร่ำลือของชาวบ้านในละแวกนั้น หลังสงครามโลกสงบลง อาจารย์ทองดี ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ของวัดท่าเกวียนฝันเห็นองค์หลวงพ่อดำในนิมิตบอกว่าอยากมาอยู่วัดท่าเกวียน จึงได้นำพุทธศาสนิกชนเดินทางไปอัญเชิญหลวงพ่อดำมาประดิษฐานไว้ในอุโบสถของวัดท่าเกวียน โดยพุทธศาสนิกชนเพียงกลุ่มนี้กลุ่มเดียวที่สามารถยกองค์หลวงพ่อขึ้นมาได้   แรกเริ่มองค์หลวงพ่อดำเป็นสีดำสนิท มีดวงตาสีขาว ด้วยลักษณะอันน่าเกรงขามทำให้เด็กๆ ที่เข้ามา กราบไหว้กลัวมาก ชาวบ้านจึงเปลี่ยนองค์พระจากสีดำให้กลายเป็นสีทองโดยการลงรักปิดทอง

            ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา องค์หลวงพ่อดำจึงกลายเป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในชุมชนเป็นเวลารวมกว่า ๖๐ ปีแล้ว ท่านมีความเมตตา ใครมีปัญหาทุกข์ร้อน ต่างพากันมาพึ่งบารมีของท่าน โดยการอธิษฐานขอบารมีหลวงพ่อให้ช่วยปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัย โดยเฉพาะเรื่องของหาย คนหาย หรือธุรกิจการเงินการงานที่ติดขัด ถ้าสิ่งที่ขอไม่ผิดต่อศีลธรรมท่านก็จะช่วยให้สมหวังดั่งความปรารถนา